12 สถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์ Singapore ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง

Posted by Mono on Tuesday, May 12, 2020
สิงคโปร์ เป็นศูนย์กลางทางการเงินและการค้าที่สำคัญของโลก มีทั้งตึกที่ทันสมัย โรงแรม 5 ดาวสุดหรู แหล่งช้อปปิ้ง ความบันเทิงมากมายเหนือระดับ สนามบินที่ดีที่สุดในโลก แต่ในขณะเดียวกันสิงคโปร์ก็ยังสามารถคงเสน่ห์ของเมืองเก่าทั้งตึก Colonial คลาสสิค ไชน่าทาวน์ ที่พลุกพล่าน และ Little India ที่น่าค้นหาไว้อีกด้วย ในแต่ละปี สิงคโปร์จะมีสถานที่ท่องเที่ยวมุมมองใหม่ๆ ชวนให้กลับไปเยือนเสมอ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายไหน สายช้อป สายกิน สายวัฒนธรรม สายกรีน ตามลายแทงต่อไปนี้ไปสัมผัสประสบการณ์ประทับใจ ถ้าเพื่อนๆที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวสิงคโปร์ อย่าลืมจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า ก่อนเดินทางสัก 2 เดือนนะครับ


1. ชางฮี (Changi Airport) ก้าวแรกสู่ความศิวิไลซ์เหนือจินตนาการ นวัตกรรมความทันสมัยของสิงคโปร์ มีให้สัมผัสตั้งแต่ก้าวแรกที่สนามบินชางฮี แชมป์สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ชางฮี พึ่งเปิดตัว Terminal 4 ที่สุดทันสมัย ใช้ระบบอัตโนมัติทั้งหมด มีตู้คีออสเช็คอินด้วยตัวเอง ไม่ต้องต่อแถวตรงยาวที่เคาน์เตอร์สายการบิน ช่องโหลดกระเป๋าอัตโนมัติ ฯลฯ โดยใช้ระบบ Fast and Seamless Travel (Fast) ตั้งแต่ประตูสนามบินจนถึงหน้า Gate สนามบินมีความหรูหราพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว มีห้างสรรพสินค้าที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับการจับจ่ายสินค้าแบรนด์ชั้นนอีกทั้งยังมีความบันเทิงหลายรูปแบบให้เลือกเช่นวิดีโอเกมจอทีวีขนาดใหญ่ และโรงภาพยนตร์อีกสองแห่งบริการไวไฟความเร็วสูง จุดชาร์จอุปกรณ์มือถือ และ Gadget เพียบ นอกจากนี้ยังสามารถเลือไปเดินเล่นที่สวนผีเสื้อแห่งแรกของโลกในบริเวณสนามบินได้อีกด้วย ปิดท้ายด้วยบริการร้านอาหารที่มีให้เลือกมากมายทั้งอาหารท้องถิ่น อาหารในภูมิภาค และอาหารนานาชาติ ด้วยความสะดวกสบายแบบครบครันทั้งหมดนี้ ไม่แปลกใจที่สนามบินชางฮีจะขึ้นแท่นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง


2. สวนเมอร์ไลอ้อนพาร์ค (Merlion Park) เรียนรู้ความเป็นมาผ่านสิงโตทะเลรูปปั้นเมอร์ไลออนสัตว์ในเทพนิยายที่สวนเมอร์ไลออนพาร์ค ส่วนหัวที่เป็นสิงโตเป็นสัญลักษณ์ของการค้นพบเกาะสิงคโปร์โดยเจ้าชายซางนิลาอุตามะเคย ตามบันทึกของชาวมลายูหางที่เป็นปลาคือสัญลักษณ์ของเมืองโบราณเทมาเซ็ก หมายความว่า "ทะเล" ในภาษาชวา ซึ่งเป็นชื่อของสิงคโปร์ก่อนที่เจ้าชายนิลาจะมาพบและตั้งชื่อว่า "สิงคปุระ" (หมายความว่าเมืองสิงโต) เมอร์ไลออนสูง 8.6 เมตร หนัก 70 ตันพ่นน้ำออกมาอยู่เสมอ เป็นไอคอนที่นักท่องเที่ยวนับล้าน ๆ มาเยี่ยมเยียนถ่ายรูปด้วยตลอดเวลา


3. Marina Bay Sands ความงามที่ลงตัวของงานวิศวกรรมสถาปัตยกรรม ริมฝั่งทะเลนอกจากเจ้า Merlion แล้วการได้มาสัมผัสประสบการณ์ที่ Marina Bay Sands ศูนย์รวมธุรกิจ ความบันเทิง ช้อปปิ้ง คือสิ่งที่ต้องห้ามพลาด ตึกริมอ่าวมาริน่าที่มีรูปร่างคล้ายไพ่ 3กอง เป็นฐานรองรับเรือขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนดาดฟ้า เป็นแลนด์มาร์ครูปร่างแปลกตาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่เดียวที่รวมทุกสิ่งอันตั้งแต่โรงแรมหรู ศูนย์ประชุม โรงละครที่มีการแสดงระดับโลกตลอดเวลา ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ เล้าจน์ บาร์ ห้างสรรพสินค้า The Shoppes at Marina Bay Sands แหล่งช้อปปิ้งแบรนด์แฟชั่นทันสมัยจากทั่วทุกมุมโลก Louis Vuitton Maison ในอาคารกระจกกลางน้ำผลงานสถาปนิกระดับโลก Peter Marino และที่พลาดไม่ได้คือ การชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ 360 องศา ที่ Sands Sky Park บนชั้น 57 (ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ S$ 20 - 23 เด็ก S$ 17) และ ชมการแสดงน้ำพุ Wonder Full - Light & Water Spectacular ที่บริเวณหน้า The Shoppes ช่วงค่ำ สองทุ่มเป็นต้นไป นอกจากนี้อย่าลืมแวะชิมร้านบักกุ๊ดเต๋ชื่อดังอย่าง "Ng Ah Sio Bak Kut Teh" ใน Food Center ชั้นใต้ดิน


4. สวนพฤกษศาสตร์ริมอ่าวมารีน่า (Garden By The Bay) อยู่ริมแม่น้ำ โดดเด่นทั้งในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ล้ำสมัยและแปลกหูแปลกตาอยู่ติดกับเขื่อนเก็บน้ำมาริน่า เป็นแหล่งรวมพืชสวนที่ได้รับรางวัลมานับไม่ถ้วนบนพื้นที่ที่เกิดจากการถมทะเล ประกอบด้วยพื้นที่สองส่วนหลัก คือ Bay South และ Bay East สวนแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจจากกล้วยไม้ จึงได้รับการออกแบบให้ดูคล้าย ดอกแวนด้าที่ชื่อ "มิส โจอาควิม" (Miss Joaquim) ดอกไม้ประจำชาติสิงคโปร์ บริเวณ Bay South คือสวนริมน้ำที่ใหญ่ที่สุด เป็นที่ตั้ง ของ Supertrees สวนแนวตั้งสูงเท่าตึก 16 ชั้นที่สามารถเก็บน้ำฝน และ ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์โดยมีทางเดิน OCBC Skyway ยาว 128 เมตร เชื่อมต่อระหว่าง Supertrees มองเห็นวิวสวนและอ่าวงดงาม นอกจากนี้ยังมี FlowerDome และ Cloud Forest Dome อาคารเรือนกระจกปรับอากาศแบบไม่ใช้เสาที่ใหญ่ที่สุดในโลก Flower Dome จำลองภูมิอากาศแบบแห้งและเย็นของภูมิภาคต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนียแอฟริกาใต้ มีพืชพันธุ์มากกว่า 32,000 ต้นจากกว่า 160 ชนิด Cloud Forest Dome มีน้ำตกในอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงกว่า 35 เมตรปกคลุมด้วยกล้วยไม้ เฟิร์น ที่ไม่ควรพลาดคือการแสดงแสงสีเสียง Garden Rhapsody (OCBC Light and Sound Show) ท่ามกลาง Supertrees เปิดแสดง 2 รอบ คือ 19.45 น. และ 20.45 น.



5. ถนนออชาร์ด (Orchard Road) ถนนต้องมนต์ที่เหล่าขาช้อปไม่ควรพลาดถนนออชาร์ด เป็น แหล่ง ช้อปปิ้ง ที่เหล่านักท่องเที่ยวยกให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งระดับโลกที่ดีที่สุดในสิงคโปร์ เพราะมีหลากหลายห้างหรู เช่น ห้าง Ion Orchard ห้าง Singapore Paragon ห้าง Takashimaya ที่อยู่ในศูนย์การค้าใหญ่อย่าง Ngee Ann City พร้อมแบรนด์ชั้นนำระดับ โลกอย่าง H&M, ZARA, Topshop Topman, Gap, Fox Kids & Baby และแบรนด์ดัง ๆ อีก มากมายรวมตัวกันอยู่ภายในถนนเส้นเดียวเท่านั้นนอกจากแบรนด์ช้อปปิ้งชั้นนำแล้วยังมีร้านอาหาร หรูอยู่ภายในห้างต่าง ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าที่ เดียวครบ จบทุกความต้องการของขาช้อปจริงๆ


6. VIVO City ศูนย์กลางของย่านฮาร์เบอร์ ฟรอนท์ (Harbour Front) และเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ ครบครันด้วยห้างสรรพสินค้า TANGS มีสถานีรถไฟโมโนเรลที่วิ่งเข้ารีสอร์ทเวิลด์เซนโตซ่าได้เลย ห้างนี้โดนใจคนมีลูกเล็กเพราะมี Toys R us ขนาดใหญ่ ร้านของเล่นมากมาย เด็ก ๆ สามารถสนุกสนานได้ที่สนามเด็กเล่นชั้นสองหรือเล่นน้ำ Sky Park ชั้น 3


7. สิงคโปร์ฟลายเออร์ (Singapore Flyer) สุดยอดชิงช้าสวรรค์ สถาปัตยกรรม ที่เป็นมากกว่าเพียงเครื่องเล่น Singapore Flyer ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางอ่าวมารีน่าเบย์ในย่านใจกลางเมือง ปัจจุบันถูกบันทึกว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีไฮไลท์คือความสูงที่สร้างความตื่นเต้นให้ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวสิงคโปร์เอง เมื่อก้าวเข้าไปในแคปซูลปรับอากาศที่มีทั้งหมด 28 แคปซูล ควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางนาน 30 นาทีที่คุณจะได้ชมภาพอันตระการตาทั้งในยามกลางวันและกลางคืน นอกจากจะเป็นจุดชมวิวเมืองที่สวยงามแล้ว ยังสามารถจองห้องอาหาร (capsule) แบบเหมา ที่ปกติจะรับคน 20 - 30 ได้ด้วย และยังมีร้านค้า ร้านอาหารและกิจกรรมต่างๆ ให้ทำอีกหลายอย่างในบริเวณด้านล่างของ Singapore Flyer อีกด้วย


8. ร้าน Hong Kong Soya Sauce Chicken Rice and Noodle Street food ร้านแรกของโลกที่ได้ดาว จาก Michelin Star ตั้งอยู่บนถนน Smith Street ในย่านไชน่าทาวน์ ร้านนี้โด่งดังในเรื่องบะหมี่ไก่อบ เรียกว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อที่สุดของทางร้านเลยก็ว่าได้ ด้วยเนื้อไก่ที่นุ่มชุ่มฉ่ำ ไม่แห้ง หนังไก่ก็อร่อย รสเข้มข้นแต่ไม่เค็มจนเกินไป เส้นบะหมี่ไข่เหนียวนุ่มราดน้ำซอส ที่คู่ควรกับรางวัล Michelin 1 Star อย่างแท้จริง ในราคาเพียง 5 $ เท่านั้น ผลลัพธ์คือมีลูกค้าจำนวนมากมาต่อแถวรอชิมกันอย่างยาวเหยียดนั่นเอง


9. Tsuta Ramen ราเม็งร้านแรกของโลก (สาขาโตเกียว) ที่ได้ดาวมิชลิน ที่สิงคโปร์เป็นเพียงสาขาแยกย่อยออกมา แต่อร่อยไม่แพ้ต้นตำรับกันเลยทีเดียว ที่นั่งภายในร้านไม่ได้มีเยอะมากนัก ออกแบบเป็น counter bar ให้อารมณ์ในแบบฉบับญี่ปุ่นสมัยใหม่ โดยเมนูแนะนำของทางร้านคือ Shoyu Ramen พร้อมหมูชาซู และไข่หนึ่งฟอง ด้วยน้ำซุปที่หวานกลมกล่อมเส้นราเม็งหนึบๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังทานราเม็งกับโซบะไปพร้อมๆ กัน จึงเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักท่องเที่ยว ทำให้มีคนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่ขอบอกเลยว่าความอร่อยนั้น คุ้มค่าแก่การรอคอยอย่างแน่นอน


10. China Town ย่านเมืองเก่าทรงเสน่ห์ แหล่งรวมวัฒนธรรมอันน่าหลงใหล เมื่อพูดถึง China town สิงคโปร์เองก็ไม่น้อยหน้าใครตลาดและถนนคนเดินไชน่าทาวน์สิงคโปร์ นั้นจะอยู่ที่ใจกลางเมือง โซนหลักๆจะอยู่บริเวณถนน Pagoda Street แล้วแยกย่อยไปตามซอยต่างๆ ทั้งซ้ายและขวาโดยจะปิดถนนไม่ให้รถวิ่งที่บริเวณ Pagoda Street ร้านค้าจะกระจายตัวกันไปทั่วทั้งบริเวณ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าเล็กๆ โดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านขนมโรงแรม ร้านขายฝากและร้านขายของที่ระลึกพร้อมทั้งร้านอาหารจีนอร่อยๆ ให้ได้เลือกสรรเพียบ และยังถือว่าเป็นย่านที่บรรดา Backpacker โปรดปรานมากที่สุดอีกหนึ่งย่านเลยก็ว่าได้



11. Kampong Glam ย่านที่ครั้งหนึ่งเคยมีชาวมาเลย์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและย่านนี้ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรม และประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจแต่ไฮไลท์ของย่านนี้มุ่งไปที่ ตรอกฮาจิ (Haji Lane) หรือตรอกฮัจญีเป็นถนนช้อปปิ้งสายเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นจากร้านค้าและดีไซน์เนอร์อิสระของวัยรุ่นหนุ่มสาวสิงคโปร์ ร้านค้าส่วนใหญ่ขายของพวกเครอื่ งแตง่ กาย เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และสินค้าสไตล์วินเทจ แบรนด์ท้องถิ่น งานออกแบบไม่ซ้ำใคร ร้านค้าตึกแถวสไตล์โคโลเนียล 2 ชั้น ตกแต่งทาสีสดใส ภาพกราฟฟิตี้ Street Art หาได้ทั่วไปตามผนังอาคาร บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คนในตรอกนี้ได้เป็นอย่างดี ปลายสุดของตรอกฮาจิใกล้กับถนน Beach Road จะมีร้านคาเฟ่ร้านอาหาร และผับสไตล์นั่งเล่น นั่งดื่มชิล ๆไว้บริการอีกด้วย ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งภายในย่าน Kampong Glam เพียงเท่านั้น ยังมีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมายรออยู่ ใครที่ชอบการแต่งตัวและสีสันที่สวยงามสดใส ขอแนะนำให้ลองมาเยือนย่าน Kampong Glam สักครั้ง


12. Little India ชุมชนสุดเก๋กับวิถีชีวิตอันแสนครึกครื้นความจอแจของคนเดินถนน เสียงแตรรถบีบเร่ง เสียงกริ่งจักรยาน ทำให้ย่านลิตเติ้ลอินเดียในสิงคโปร์คึกคักไม่เป็นรองย่านไหน ๆ ในเกาะ ย่านลิตเติ้ลอินเดีย เป็นอีกหนึ่งย่านเก่าแก่ยอดฮิตของสิงคโปร์ ที่มีสีสันแห่งวัฒนธรรมของชาวอินเดียทำให้นึกว่ากำลังเที่ยวอยู่ในอินเดีย ไม่ใช่สิงคโปร์ โดยมีอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ในสไตล์โคโลเนียลถูกนำมาทาสีสด ๆ ให้ดูสวยงามแปลกตายิ่งกว่าย่านไชน่าทาวน์เสียอีก มีสถานที่ที่น่าสนใจมากมายหลากหลายประเภท ทั้งถนนคนเดินช้อปปิ้ง วัดแขกหรือวัดของศาสนาฮินดู ศูนย์อาหารอินเดีย และห้างมุสตาฟา ห้างขายของถูกสุดฮิตของคนไทยที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงตรอกที่ได้รับความนิยมในอดีตซึ่งเคยเป็นตรอกสำหรับซื้อขายวัว - ควายอย่าง Buffalo Road อีกด้วย จากเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ย่านนี้เป็นที่น่าจดจำของนักท่องเที่ยวตลอดมา