ประกันภัยการเดินทางเป็นเหมือนตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การท่องเที่ยวหรือเดินทางของเราได้รับการคุ้มครองจากเหตุสุดวิสัยต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นเหตุจากสุขภาพ อุบัติเหตุ ทรัพย์สิน
รวมถึงการเดินทางที่ล่าช้าด้วยสาเหตุต่างๆ
ซึ่งทุกวันนี้ก็มีให้เราได้เลือกซื้อหาหลากหลายยี่ห้อ
แต่ละบริษัทเองก็มีเงื่อนไขการคุ้มครองที่แตกต่างกัน
ดังนั้นก่อนซื้อประกันภัยการเดินทางสักฉบับเราควรคำนึงถึงเงื่อนไขต่างๆ
ดังต่อไปนี้
1. เราเดินทางนานแค่ไหน
ประกันภัยการเดินทางมีทั้งแบบคุ้มครองรายปี
ที่จะต้องจ่ายเบี้ยประกันค่อนข้างสูง แต่ข้อดีก็คือจะคุ้มครองกันไปยาว
ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่เดินทางเป็นประจำ หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางนานๆ
รวมถึงผู้ที่ศึกษาต่อต่างประเทศ ส่วนคนเดินทางเป็นครั้งคราว
ไม่ได้มีวางแผนล่วงหน้าอะไร การซื้อแบบรายวัน / รายสัปดาห์ ก็อาจจะเหมาะสมกว่า
2. คุ้มครองอะไรบ้าง
เงื่อนไขการคุ้มครองของประกันการเดินทาง
บางบริษัทก็คุ้มครองเฉพาะส่วนของสุขภาพและสัมภาระ ซึ่งมักจะเป็นการคุ้มครองพื้นฐาน
แต่บางบริษัทก็ครอบคลุมไปถึงการชดเชยเที่ยวบิน ที่พักกรณีเกิดเหตุจำเป็น การเคลมเที่ยวบินกรณีตกเครื่อง
หรือบางบริษัทก็คุ้มครองไปถึงกรณีทรัพย์สินสูญหายในต่างแดนอีกด้วย
3. ต้องสำรองจ่ายหรือไม่
คืนเงินหรือเปล่า
บางบริษัทคุ้มครองทันที
ฟรีตลอดทริป แต่บางบริษัทก็ต้องสำรองจ่ายไปก่อนค่อยเบิกคืนทีหลัง
ทำให้เราต้องวางแผนการเงินควบคู่กันไป
รวมถึงกรณียื่นขอวีซ่าบางประเทศเช่นเครือเชงเก้น
(ที่ต้องให้ยื่นประกันภัยการเดินทางเป็นหลักฐานสำคัญ) หากเรายื่นไม่ผ่าน ทางบริษัทประกันเดินทางก็จะคืนเงินให้เรา
ก็เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่เราควรคำนึงถึง
4. บริการหลังการขาย
เมื่อเกิดเหตุใดๆ
ก็ตาม เราอาจจะต้องการสอบถามข้อมูลอย่างเร่งด่วนจากบริษัทประกันเดินทางที่เราซื้อ
หากมีการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว ให้บริการ 24 ชั่วโมง ติดต่อไปเมื่อไหร่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ
ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
5. โปรโมชั่น
เรื่องของค่าใช้จ่ายก็เป็นสิ่งสำคัญ
หลายบริษัทร่วมมือกับธนาคารหรือบัตรเครดิต
สามารถซื้อประกันเดินทางได้ในราคาที่ถูกกว่าการซื้อจากบริษัทโดยตรง
ซึ่งหากเราศึกษาข้อมูลตรงนี้ไป ก็จะช่วยให้เราได้ประกันภัยการเดินทางที่คุ้มค่า และถูกใจเราค่ะ