เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมคะว่าในเครือเชงเก้นเนี่ย
มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ไปชมความงดงามของสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ อย่าง “โคลอสเซียม (Colosseum)” ที่เป็นสนามกีฬากลางแจ้ง
สร้างในสมัย จักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน จุคนได้ถึง 50000 คน
เป็นต้นแบบของการออกแบบอย่างชาญฉลาดของสนามกีฬาที่สามารถป้องกันน้ำท่วมขังเวลาฝนตกหนักๆ
ได้ จนกลายเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน
ออสเตรียเป็นประเทศที่สวยงาม
และมีประวัติยาวนาน เราขอแนะนำพระราชวัง Schonbrunn สร้างขึ้นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16
หนึ่งในมรดกโลกที่ถูกยกย่องโดย UNESCO
ภายในพระราชวังนี้ประดับตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา
รวมถึงมีอุทยานที่เป็นที่ตั้งของสวนสัตว์แห่งแรกของโลก
เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของออสเตรียที่ไม่ควรพลาด
เมืองไลพ์ซิกเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี
แถมยังเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีคลาสสิคชื่อก้องโลก
ดังนั้นที่เที่ยวของที่นี่ก็จะเกี่ยวข้องกับดนตรีเป็นส่วนใหญ่ เช่นโบสถ์เซนต์โทมัส
ก็จะมีการแสดงดนตรีที่เป็นผลงานของนักดนตรีคลาสสิคอยู่เป็นประจำ
บาเลนเซียถือเป็นเขตเมืองเก่าของสเปน
โดยมีมหาวิหารบาเลนเซียเป็นจุดเด่นของเมืองนี้ มหาวิหารสไตล์โกธิคโรมัน
ตกแต่งภายในด้วยศิลปะแบบ Neo-Classic
โดยไฮไลท์ของมหาวิหารแห่งนี้คือเป็นที่กเก็บรักษาจอกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูในห้อง
Chapel of the Holy Grail
ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 นู่นเลยนะ
พลาดไม่ได้เลยกับ วิหาร Parthenon มหาวิหารพาเธนอน
ซึ่งเป็นมหาวิหารโบราณ ตั้งอยู่บนเนิน อะโครโพลิส ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบูชาเทพี Athena
หรือเทพีแห่งปัญญา
เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุด
และยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกสิ่งหนึ่งอีกด้วย
น่าไปท่องเที่ยวทุกที่เลยใช่ไหมล่ะคะ
ถ้าสนใจท่องเที่ยวเก็บให้หมดทั้ง 5
แห่งนี้ ก็ลองวางแผนยื่นขอวีซ่าเชงเก้นกันเลย
ซึงการขอวีซ่าเชงเก้นสิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดก็คือการซื้อ “ประกันการเดินทาง” ค่ะ
เพราะถือเป็นเอกสารที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้พิจารณาวีซ่าว่าเราตั้งใจที่จะไปท่องเที่ยวจริงๆ
วิธีการซื้อประกันการเดินทางก็ไม่ยุ่งยาก
เพียงแค่สั่งซื้อออนไลน์จากผู้ให้บริการด้านประกันการเดินทางต่างประเทศ
สั่งพิมพ์เอกสารประกันการเดินทางที่ครอบคลุมการเดินทางของเราทั้งไปและกลับ
แนบไปกับเอกสารยื่นขอวีซ่าเชงเก้น หากข้อมูลทุกอย่างครบถ้วน
ก็เตรียมตัวเอาวีซ่าเชงเก้นไปเดินเล่นเฉิดฉายตามรอยนี้กันได้เลย